วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556
วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556
เคล็ดลับแก้กรรม
เคล็ดลับแก้กรรม
บูชาวัตถุมงคลเสริมดวงชะตาชีวิต
พระโพธิสัตว์กวนอิม องค์จตุคามรามเทพ พระนารายณ์ พระแม่รัศมี พ่อแก่ พระพิฆเนศวร หลวงปู่มั่น
พระแม่ธรณี หลวงปู่อยู่ หลวงปู่คง องค์วัตถุมงคลที่เนื้อทำด้วยดิน หิน ทราย แก้ว
การทำบุญเสริมดวง
บริจาคเงินร่วมสร้างสะพาน ร่วมสร้างวัดวาอาราม ช่วยเหลือคนชรา ช่วยเหลือคนที่ฐานะต่ำกว่าตนเอง
การปล่อยสัตว์เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต
เต่า ๑ คู่ /ปลาไหล ๑คู่ หรือหอยขม ๒ กิโลกรัม ซื้อชีวิตโค กระบือ
วัตถุมงคลเสริมดวงชะตาชีวิต
หลวงพ่อโต หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อปาน องค์ตรีมูรติ พระพิฆเนศวร พ่อแก่ แปดเซียน เนื้อแร่องค์จตุคาม
รามเทพ วัตถุมงคลที่ทำด้วยเนื้อโลหะ เนื้อเหล็กไหล
การทำบุญเสริมดวง
บริจาคหนังสือบวชเรียน หนังสือหลักธรรม พระไตรปิฎก บอกบุญผู้อื่น
การปล่อยสัตว์เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต
นก ๑ คู่ /เต่า ๑ คู่ /ปลาไหล ๑ คู่/ ปลาดุก หรือหอยขม ๒ กิโลกรัม
วัตถุมงคลเสริมดวงชะตาชีวิต
องค์จตุคามรามเทพ พระโพธิสัตว์กวนอิม หลวงพ่อวัดปากน้ำ พระนารายณ์ หลวงปู่ทวด พระแม่ลักษมี
พระแม่คงคา พระพิฆเนศวร พ่อแก่ วัตถุมงคลที่ทำด้วยเนื้อหยก หินอ่อน คริสตัล
การทำบุญเสริมดวง
บริจาคค่าน้ำ ค่าน้ำมันตะเกียง เครื่องดื่ม เครื่องปั้มน้ำ นำปุ๋ยไปใส่ต้นไม้ในบริเวณวัดวาอาราม สร้างส้วม
ล้างส้วมให้วัด หรือในที่สาธารณะ
การปล่อยสัตว์เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต
ปลาช่อน ๑ คู่/ ปลาดุกและเต่า ๑ คู่ หรือหอยขม ๒ กิโลกรัม
วัตถุมงคลเสริมดวงชะตาชีวิต
องค์จตุคามรามเทพ พระโพธิสัตว์กวนอิม หลวงปู่ทวด หลวงพ่อโตอยุธยา พระนารายณ์ พระแม่ลักษมี
พระแม่คงคา หลวงพ่อวัดปากน้ำ พระพิฆเนศวร พ่อแก่ วัตถุมงคลที่ทำด้วยเนื้อหยก หินอ่อน คริสตัล
การทำบุญเสริมดวง
บริจาคค่าน้ำ ค่าน้ำมันตะเกียง เครื่องดื่ม เครื่องปั้มน้ำ นำปุ๋ยไปใส่ต้นไม้ในบริเวณวัดวาอาราม สร้างส้วม
ล้างส้วมให้วัด หรือในที่สาธารณะ
การปล่อยสัตว์เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต
ปลาช่อน ๑ คู่ /ปลาดุกและเต่า ๑ คู่ หรือหอยขม ๒ กิโลกรัม
วัตถุเสริมดวงชะตาชีวิต
องค์จตุคามรามเทพ พระแม่อุมามหาเทวี พระพิฆเนศวร ฤาษีตาไฟ พระศิวะ ท้าวเวสสุวรรณ พ่อแก่ พระ
เกจิอาจารย์ทางภาคตะวันออกทั้งหมด
การทำบุญเสริมดวง
บริจาคธูปเทียน ค่าไฟ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ตะเกียง น้ำมันตะเกียง โคมไฟ หลอดไฟฟ้า สายไฟฟ้าที่เกี่ยว
กับไฟ และแสงสว่าง
การปล่อยสัตว์เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต
สัตว์ทุกประเภท ตั้งแต่ ๒ ตัว (๑คู่) ๕ ตัว และ ๙ ตัว เลือกตามความเหมาะสม
วัตถุมงคลเสริมดวงชะตาชีวิต
องค์จตุคามรามเทพ พระศิวะ พระแม่อุมามหาเทวี พ่อแก่ ฤาษีตาไฟ ท้าวเวสสุวรรณ พระพิฆเนศวร พระ
เกจิอาจารย์ทางภาคตะวันออกทั้งหมด
การทำบุญเสริมดวง
บริจาคต้นไม้ /ปุ๋ย /ยาสมุนไพร/ สร้างวัด สร้างอาคารสงฆ์ สร้างสะพาน สร้างวิหาร หรือสร้างสุขา
การปล่อยสัตว์เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต
สัตว์บนหรือสัตว์หน้าดิน ตั้งแต่ ๒ ตัว (๑คู่) ๕ ตัว และ ๙ ตัว เลือกตามความเหมาะสม
วัตถุมงคลเสริมดวงชะตาชีวิต
องค์จตุคามรามเทพ พระศิวะ พระพิฆเนศวร พ่อแก่ ฤาษีตาไฟ ท้าวเวสสุวรรณ พระแม่อุมามหาเทวี
พระเกจิอาจารย์ทางภาคตะวันออกทั้งหมด
การทำบุญเสริมดวง
บริจาคต้นไม้ /ปุ๋ย /ยาสมุนไพร/ สร้างวัด สร้างอาคารสงฆ์ สร้างสะพาน สร้างวิหาร หรือสร้างสุขา
การปล่อยสัตว์เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต
สัตว์บน หรือสัตว์หน้าดิน ตั้งแต่ ๒ ตัว (๑คู่) ๕ ตัว และ ๙ ตัว เลือกตามความเหมาะสม
วัตถุเสริมดวงชะตาชีวิต
องค์จตุคามรามเทพ พระแม่อุมามหาเทวี พ่อแก่ พระพิฆเนศวร พระศิวะ ฤาษีตาไฟ ท้าวเวสสุวรรณ
พระเกจิอาจารย์ทางภาคตะวันออก
การทำบุญเสริมดวง
บริจาคธูปเทียน ค่าไฟ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ตะเกียง น้ำมันตะเกียง โคมไฟ หลอดไฟฟ้า สายไฟฟ้าที่เกี่ยว
กับไฟ และแสงสว่าง
การปล่อยสัตว์เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต
สัตว์ทุกประเภท ตั้งแต่ ๒ ตัว (๑คู่) ๕ ตัว และ ๙ ตัว เลือกตามความเหมาะสม และโอกาสก็แล้วกัน
วัตถุมงคลเสริมดวงชะตาชีวิต
องค์จตุคามรามเทพ พระโพธิสัตว์กวนอิม หลวงพ่อโต พระแม่สุรัสวดี หลวงปู่ทวด หลวงพ่อวัดปากน้ำ
พระแม่ธรณี พระพิฆเนศวร พ่อแก่ องค์วัตถุมงคลที่ทำด้วยเนื้อไม้ หยก หรือดินผสมเศษไม้พืชอื่นๆ
พระพรหม
การทำบุญเสริมดวง
บริจาคเงินเพื่อสร้างสะพาน ปูพื้นศาลา ปูโบสถ์วัด ปลูกต้นไม้ใหญ่ในบริเวณวัดวาอาราม หรือในที่
สาธารณะ ทำบุญด้วยยาสมุนไพร หรือบริจาคอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับไม้ หรือเกษตรกรรม
การปล่อยสัตว์เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต
นก ๑ คู่ /ปลาไหล ๑ คู่ /เต่า ๑ คู่ หรือสัตว์ทุกประเภท จำนวน ๒ ตัว ๕ ตัว หรือ ๙ ตัว
วัตถุมงคลเสริมดวงชะตาชีวิต
องค์จตุคามรามเทพ พระโพธิสัตว์กวนอิม พ่อแก่ พระพรหม หลวงปู่ทวด หลวงพ่อวัดปากน้ำ หลวงพ่อโต
พระพิฆเนศวร พระแม่ธรณี พระแม่สุรัสวดี องค์วัตถุมงคลที่ทำด้วยเนื้อไม้ หยก หรือดินผสมเศษไม้พืช
อื่นๆ
การทำบุญเสริมดวง
บริจาคเงินสร้างสะพาน ปูพื้นศาลา ปูโบสถ์วัด ปลูกต้นไม้ใหญ่ในบริเวณวัดวาอาราม หรือในที่สาธารณะ
ทำบุญด้วยยาสมุนไพร หรือบริจาคอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับไม้ หรือเกษตรกรรม
การปล่อยสัตว์เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต
นก ๑ คู่ /ปลาไหล ๑ คู่ /เต่า ๑ คู่ หรือสัตว์ทุกประเภท จำนวน ๒ ตัว ๕ ตัว หรือ ๙ ตัว
วัตถุมงคลเสริมดวงชะตาชีวิต
องค์จตุคามรามเทพ หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อปาน พ่อแก่ องค์ตีมูรติ พระพิฆเนศวร แปดเซียน
หลวงพ่อโต องค์วัตถุมงคลที่ทำด้วยเนื้อโลหะ เนื้อเหล็ก เหล็กไหล เนื้อแร่
การทำบุญเสริมดวง
บริจาคหนังสือบวชเรียน หนังสือหลักธรรม พระไตรปิฎก
การปล่อยสัตว์เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต
นก ๑ คู่ /เต่า ๑ คู่ /ปลาไหล ๑ คู่ /ปลาดุกหรือหอยขม ๒ กิโลกรัม
วัตถุมงคลเสริมดวงชะตาชีวิต
พระโพธิสัตว์กวนอิม องค์จตุคามรามเทพ พระแม่รัศมี พระพิฆเนศวร พ่อแก่ พระแม่ธรณี หลวงปู่มั่น
พระนารายณ์ หลวงปู่อยู่ หลวงปู่คง และองค์วัตถุมงคลที่เนื้อทำด้วยหิน ดิน ทราย แก้ว
การทำบุญเสริมดวง
บริจาคเงินร่วมสร้างสะพาน ร่วมสร้างวัดวาอาราม ช่วยเหลือคนชรา ช่วยเหลือคนที่ฐานะต่ำกว่าตนเอง
การปล่อยสัตว์เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิต
เต่า ๑ คู่ /ปลาไหล ๑ คู่ /หรือหอยขม ๒ กิโลกรัม
ลงนะหน้าทอง
การลงนะหน้าทอง
เป็น ศาสตร์ที่มีอำนาจสูงส่งทางด้านการส่งเสริมดวงชะตาบารมี เสริมสิริมงคล รวมไปถึงเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ และโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง ผู้ใดได้ลงนะหน้าทองถือ เป็นวาสนาแห่งบุคคลผู้นั้น ที่ไม่เคยมีใครรักก็กลับมามีคนเมตตารักใคร่ ที่ทำมาหากินไม่ดีก็กลับมาค้าขายดีมีกำไร ชีวิตที่อับเฉาก็จะไม่แห้งเหี่ยวอีกต่อไป จะบังเกิดสิ่งที่ดี ๆ เข้ามาในชีวิตพลิกชะตาจากที่ร้ายกลายเป็นดีอย่างไม่น่าเชื่อจะบังเกิดสิ่ง ที่ดี ๆ ขึ้นในชีวิต
ตอนที่ 2 วิชานะหน้าทองเป็นวิชาไสยศาสตร์ตามลัทธิพราหมณ์
สืบเนื่องมาจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ กล่าวคือ ภายในเรื่องรามเกียรติ์นั้นมี “พระลักษณ์” ซึ่งมีรูปกายเป็นสีทอง มีศักดิ์เป็นน้องของพระราม พระลักษณ์นี้มีลักษณะ สง่างาม เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา ด้วยคุณของพระลักษณ์ดังกล่าวมานี้ ในกาลต่อมาจึงได้ถือเป็นคติในการสร้างวิชาสายเมตตามหานิยม และมหาเสน่ห์ นะหน้าทองคือวิชาไสยศาสตร์ที่มีอำนาจ ทางเมตตามหานิยม จัดเป็นวิชาชั้นสูงที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธคุณ ไม่ใช่วิชาสายต่ำหรือมนต์ดำ
ตอนที่ 3 ที่เรียกว่านะหน้าทอง
เนื่อง จาก มีการใช้ทองคำเปลวบริสุทธิ์ (ถือว่าเป็นของสูง) มาลงที่ใบหน้าของผู้ที่ประสงค์ให้คนมีสง่าราศี ประกอบกับอักขระที่ลงนั้นมีสูตรการเรียกเฉพาะตนว่าตัวนะหน้าทอง และยันต์ที่ลงก็จะมีสูตรถือเป็นเคล็ดของครูบาอาจารย์แต่ละท่านจะไม่เหมือน กัน ใครสำเร็จยันต์ไหน ตัวนะอักขระตัวใดก็ลงตามที่ตนเชึ่ยวชาญ
ตอนที่ 4 (เหตุที่ต้องใช้ทองในการลง)
นะ หน้าทองนั้นเป็นวิชาโบราณที่มีการใช้ "ธาตุทอง" เป็นตัวลง การใช้ธาตุทองนั้นเนื่องจากธาตุทองเป็นธาตุที่มีความเป็นสิริหรือแสงสว่าง ภายในตัว โดยตามธรรมชาตินั้นธาตุทองจะซึมซับเอาสิริ หรือแสงสว่างจากพระอาทิตย์ และพระจันทร์ไว้ในตัว นอกจากนี้แล้วธาตุทอง ยังถือว่าเป็นสิ่งอันเป็นมงคลด้วย เพราะเป็นธาตุที่ถือว่าเป็นตัวแทนของความดี ความงาม ความสว่าง และนอกจากนี้ ทองคำยังเป็นธาตุที่ไม่มีวันเสื่อมคุณค่า ไม่ว่าจะโดนน้ำ โดนไฟ โดนลม ก็ไม่ทำให้เสื่อมคุณภาพ หรือคุณค่าในตัวเองลง เมื่อทองคำมีคุณค่าเช่นนี้ โบราณจารย์ จึงได้คิดค้นวิชานะหน้าทองขึ้น เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ลง
ตอนที่ 5 (จุดที่ลงนะหน้าทอง)
โดยมากเรามักเห็นการลงนะหน้าทอง จะลงกันที่บริเวณหน้าผาก แต่ทั้งนี้การลงนะหน้าทองนั้นหากลงเต็มสูตรจริง ๆ จะมีตำแหน่งต่าง ๆ ดังนี้
1. หน้าผาก เป็นจุดใหญ่ที่สุดของใบหน้าและถือเป็นจุดที่สามารถเห็นเด่นชัด จุดนี้ถือว่าเป็นที่รวมของสิริบนใบหน้า และเป็นจุดสำคัญที่สุดในการลงนะหน้าทอง
2. เปลือกตา หรือใต้ตา จุดนี้เพื่อให้ยามที่ใครสบตาเรา หรือยามที่เรากระพริบตา ผู้ที่มองเราอยู่จะรู้สึกนึกรักและนิยมในตัวเรา
3. แก้ม เพื่อให้เป็นที่รัก การลงที่แก้มจะเรียกว่าวิชาพรหมสี่หน้า เป็นเมตตาอย่างประเสริฐ
4.กราม เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือยามพูด
5. ที่ติ่งหูสองด้าน เป็นที่สถิตของเทวดารักษาอายุ
6. ท้ายทอย เพื่อเป็นที่รักยามที่คนมองเราจากด้านหลัง
7. ลิ้น เรียกว่าสาลิกาลิ้นทอง เป็นวิชาลงทองที่มีสูตรเฉพาะแยกออกมาอีกสาขาหนึ่ง
8. กระหม่อม เป็นจุดเข้าออกของวิญญาณและปราณพลังชีวิต เป็นจุดศูนย์รวมของพลังชีวิตมนุษย์และเป็นที่สถิตของเทวดา
9. คาง เป็นส่วนที่ต่ำสุดของใบหน้า ลงจุดนี้เพื่อเป็นที่เคารพยำเกรง
แต่โดยมากการลงนะน้อยคนนักที่จะได้ลงครบสูตรตามนี้ ส่วนมากมักจะลงที่หน้าผาก แก้ม คาง ก็เพียงพอแล้ว อาจจะไม่ใช่มาตรฐานตายตัว แต่ก็นับได้ว่าเป็นความรู้ เป็นศาสตร์และศิลป์ที่น่าสนใจ
ตำนานประวัติพระแม่กวนอิมอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์
ตำนานประวัติพระแม่กวนอิมอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์
พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ เป็นพระโบราณทรงบำเพ็ญสำเร็จพระโพธิญาณด้วยพระองค์เอง ตั้งแต่เมื่ออดีตอันยาวนานจนมิอาจคำนวณนับจำนวนกัปกัลป์ได้ โพธิจิตของพระองค์ท่านได้สำเร็จด้วยการพิจารณาจนถึงที่สุดแห่งกระแสเสียง และทรงนิ่งอยู่ในอารมณ์ธรรมชาติของกระแสนั้น จนบรรลุถึงจุดนิ่งสุดของความนิ่งทั้งปวง อันเป็นธรรมชาติแห่งสุญญตา ด้วยจิตที่นิ่งที่สุดในสุญญตานี้ จึงทรงเป็นอกริยาที่เหนือผัสสะ ความเกิดดับ ความหวั่นไหว และไม่หวั่นไหวทั้งปวง เสียงของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่มีตัวตนและไม่มีตัวตนในทุกหนทุกแห่ง ล้วนอยู่ในสายตาความรู้เห็นของพระองค์ทั้งสิ้น ไม่มีเสียงใดในโลกหรือนอกโบกที่จะพ้นไปจากพระกระแสแห่งความรู้เห็นของ พระองค์พระนามของพระองค์ “กวนอิม” จึงมีความหมายที่ลึกซึ้งว่า “ผู้เงี่ยหูฟังเสียงร้องของโลก”
ด้วยพระบารมีอันสั่งสมมานานของพระองค์ท่าน จึงทรงสามารถสำแดงแปลงพระกายได้ถึงพันพระเศียรพันพระกร พันพระเนตร ตลอดจนสามารถเนรมิตกายเพื่อโปรดสรรพสัตว์ในรูปกายต่าง ๆ ได้มากมายมหาศษลตามที่ปรากฏในพระสัทธธรรมปุณฑริกสูตรฉบับภาษาจีน (เมียวฮวบไหน่ฮัวเกง) ได้กล่าว่า พระองค์ท่านมีนิรมาณกาย 32 ปางใหญ่ ด้วยบุญญาภินิหารและอิทธิปาฏิหาริยันล้นพ้นของพระองค์ท่านทรงโปรดสรรพสัตว์ สุดที่จะประมาณได้ ซึ่งไม่มีพระโพธิสัตว์องค์ใดที่จะโปรดได้มากเสมอเหมือนปางที่ชาวโลกนิยมบูชา พระองค์ท่านมากที่สุดคือ ปางเพศสตรีโดยชาวพุทธมหายานในประเทศอินเดียเอ่ยพระนามพระองค์ท่านตามภาษา สันสกฤตว่า “อวโลกิเตศวร” ครั้นพระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศจีน จึงได้รับการแปลชื่อพระองค์ท่านตามศัพท์เป็นภาษาจีนว่า “กวนซืออิม” ซึ่งพระธรรมาจารย์กุมารชีพได้แปลความหมายว่า “ผู้เพ่งเสียงแห่งโลก” ต่อมาเนื่องจากคำว่า “ซือ” ไปตรงกับพระนามของจักรพรรดิถังไท่จง คือ หลี่ซือหมิง ดังนั้นจึงมีพระราชโองการให้ตัดคำว่า “ซือ” ออกเหลือแต่คำว่า “กวนอิม” นอกจากพระนามกวนอิมนี้แล้ว ก็ยังมีบางคนเอ่ยพระนามพระองค์ท่านว่า “กวนจื๋อไจ๋” ซึ่งสมณะเฮียนจั่งหรือที่ชาวไทยรู้จักกันดีในนามพระถังชำจั๋ง ได้เป็นผู้แปลใหม่มีความหมายว่า “ผู้เพ่งโดยอิสระ” แต่คนทั่วไปยังนิยมออกพระนามว่า “พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์” พระแม่มหาเมตตา มาจนทุกวันนี้ ด้วยพระนามที่ขึ้นต้นด้วย “พระแม่” นี้ ทำให้บางคนคิดว่าพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ ทรางเป็นเพศสตรีอันอ่อนแอ ต่ำต้อยกว่าบุรุษ ซึ่งสำหรับปุถุชนทั่วไปแล้วย่อมเป็นเล่นนั้น แต่สำหรับพระองค์ท่านย่อมอยู่เหนือกฏเกณฑ์ เพราะคำว่า “เพศ” นี้ มีอยู่เฉพาะในมวลสัตว์ และใช้สำหรับผู้ที่ยังไม่สำเร็จเท่านั้น พระอริยเจ้าทุกพระองค์หรือผู้ที่สำเร็จแล้วย่อมอยู่เหนือคำว่าเพศ พระองค์ท่านทรงโปรดสรรพสัตว์ด้วยรูปปางต่าง ๆ ตั้งแต่ปางพุทธะลงมาจนถึงปางเทพ ยักษ์ มนุษย์ และอมนุษย์ โดยไม่จำกัดทั้งเพศและวัย รูปปางที่ปรากฏตามเพศวัยต่าง ๆ ในการโปรดสัตว์ของพระองค์ท่านนี้ เป็นภาวะที่เกินปัญญาของคนธรรมดาจะรู้ได้ พระองค์ท่านก็ทรงเป็นพระองค์ท่าน ปรากฏการณ์ก็คือปรากฏการณ์ การจะจำกัดพระองค์ท่านในรูปปางนั้น เพศนั้น วัยนั้น ตามปรากฏการณ์เสียทีเดียวย่อมไม่น่าจะถูกต้อง เพราะด้วยจิตศรัทธาที่แน่วแน่มั่นคง การบูชาย่อมเป็นประโยชน์ และเข้าถึงพระองค์ท่านได้โดยไม่จำกัดว่าเป็นรูปปางใด
การบูชาพระองค์ท่านจะทำให้มีความรู้สึกเหมือนอยู่กับแม่ อยู่ใกล้แม่ ในโลกนี้ไม่มีผู้ใดจะรู้และเข้าใจถึงเสียงของสรรพสัตว์สรรพสิ่งได้ดีเท่า พระองค์ และไม่มีผู้ใดในโลกจะเมตตาเกินพระองค์ จงไว้วางใจในความรักความเมตตาของพระองค์ท่าน และมอบถวายความรักความบูชาไว้กับพระองค์ผู้ที่อยู่ใต้ความรักความเมตตาของ พระองค์ เคราะห์กรรมภัยพิบัติจะดับสูญ ทุกสิ่งจะคลี่คลายไปในทางที่ดี ชีวิตจะร่มเย็นเป็นสุขสมปรารถนาด้วยพระบารมี
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์(เจ้าแม่กวนอิม)
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ หรือที่ชาวจีนเรียกว่า “กวนซีอิมผู่สัก” (พระโพธิสัตว์กวนอิม) เป็นพระมหาโพธิสัตว์องค์หนึ่งที่มีพระเมตตากรุณามากซึ่งมีความสำคัญ ในการโปรดสัตว์โลกเป็นอย่างยิ่งในพระไตรปิฎกนิกายจีนมหายาน ได้จารึกถึงบทบาทสำคัญของพระองค์ ที่มีต่อพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก พระองค์ได้ทรงตั้งปณิธานไว้ว่าจะขอโปรดสัตว์โลกในไตรภูมิเพื่อให้ สัตว์โลก ได้รับพระเมตตากรุณามากที่สุด “ในเมื่อสัตว์โลกยังโปรดไม่หมด พระองค์ก็ยังไม่มีพระทัย ที่จะเสด็จเข้าสู่พุทธภูมิเสด็จนิพพานเป็นพระพุทธเจ้า” พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ ปรากฏพระนามตั้งแต่ยุคแรกของพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน เมื่อพระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศจีน พระอาจารย์กุมารชีพแปลพระนามเป็นภาษาจีนว่า กวนซีอิม ตามศัพท์คำว่า อวโลกิเตศวร ในความหมายของ “พระผู้เพ่งเสียงแห่งโลก” ( กวน=อว ซี=โลกิต อิม=ศวร ) ต่อมา เนื่องจากคำว่า ซี ไปตรงกับพระนามของพระจักรพรรดิถังไท่จง คือหลีซีหมิง จึงตัดคำว่า ซี ออกเหลือเพียงแต่ กวนอิม
อัคคีภัย ณ ที่นี้ หมายถึง 1. โลภะ อัคนี 2. โทสะ อัคนี 3. โมหะ อัคนีไฟชนิดนี้อันมีนามว่า “อัคนีแห่งกิเลศราคะ” แม้จะเอาน้ำในมหาสมุทรดับก็ไม่ได้ผล อัคคีชนิดนี้ ลุกลามแผ่ไพศาลครอบงำมนุษย์ถึงขนาดเจ้าโลภะ โทสะ โมหะ ก็เข้าบงการจิตใจ
อุทกภัย หมายถึง ทะเลทุกข์ ซึ่งเรียกกันในพระพุทธศาสนา สัตว์อุปมาดังผู้อาศัยอยู่ในเรือน้อยลอยลำร่อนเร่พเนจรอยู่ในกลางทะเลอัน เป็นวัฏฏสงสาร เวียนเกิดเวียนตาย อยู่ในโลกคือ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย
โจรภัย คำว่า “โจร” หมายถึง โจรแห่งอารมณ์ฟุ้งซ่านหาใช่โจรธรรมดาไม่ โจรชนิดนี้ไม่มีตัวตน ปล้นอย่างเงียบ ๆ และใจเย็น ผู้ถูกปล้น มีสติเพลิดเพลินหลงใหลทรัพย์สินเงินทองสมบัติหมดเปลือง ถูกขนของออกจากบ้านไปโดยการปล้นทีละเล็กทีละน้อยจนหมดเนื้อหมดตัว
การขอให้พ้นภัยก็ไม่ลำบาก เพียงแต่ตั้งใจภาวนาคำว่า 'นำมอ กวนซีอิมผ่อสัก' ความทุกข์ก็พลันสลาย
ส่วนใน อวโลกิเตศวรสมาธิสูตร กล่าวว่าทรงเป็นพระสัทธรรมประภาสตถาคตผู้ทรงตรัสรู้แล้วในอดีต แต่ทรงสงสารเหล่าสัตว์จึงทรงดำรงอยู่ในโพธิสัตว์กายเพื่อโปรดสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทรงเนรมิตพระรูปกาย ๓๓ กาย แสดงธรรมแก่สัตว์ทั้งหลาย ได้แก่รูปของพระพุทธเจ้า พระสาวก พระพรหม พระอินทร์ พระเจ้าจักรพรรดิ เศรษฐี กุมาร กุมารี เทพ ครุฑ นาค ยักษ์ ฯลฯ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์เป็นพระโพธิสัตว์ที่ชาวจีนนับถือเป็นอันมาก นับแต่สมัยราชวงศ์ถัง (พ.ศ.๑๑๖๑ - ๑๔๕๐) ชาวจีนนับถือกันว่าเกาะผู่ถอซาน นอกชายฝั่งเมืองหนิงปอ มณฑลเจ้อเจียง คือเกาะโปตลกะอันเป็นที่ประทับ ( ภาษาจีนว่า โผวท้อเลาะแค) เกาะแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ บนเกาะมีวัดวาอารามที่สร้างบูชารูปท่าน และวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาท่านโดยเฉพาะก็มีอยู่มากมายรูปเพศหญิงของพระ อวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ ที่เราเห็นในปัจจุบันนั้นเป็นความนิยมหลังสมัยราชวงศ์ซ่ง (ซ้อง) (พ.ศ.๑๕๐๓ - ๑๘๒๒) เป็นต้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยราชวงศ์หยวน (พ.ศ.๑๘๒๓ - ๑๙๑๑) ตำนานเรื่องประวัติพระกวนอิมแพร่หลายในหมู่ชาวบ้านมาก นับถือกันว่าพระอวโลกิเตศวรนั้น แต่เดิมคือ พระธิดาเมี่ยวซั่น แห่งกษัตริย์เมี่ยวจวงอ้วง ตามเรื่องในนิทาน ทำให้รูปปฏิมาภายหลังจึงนิยมสร้างเป็นรูปสตรีเพศ โดยอุปมาว่าทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาต่อสรรพสัตว์ประดุจมารดามีต่อบุตร พระกวนอิม หรือพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ จึงเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย พระองค์เป็นที่พึ่งของสัตว์โลกทั้งปวง พระองค์ท่านทรงเป็นผู้มีเมตตากรุณาช่วยปลดเปลื้องทุกข์ภัยของสัตว์โลกทั่ว ไตรภูมิและทรงปฏิบัติเช่นนี้เป็นนิจสิน
พระคาถาบูชา บทสรรเสริญพระคุณพระโพธิสัตว์กวนอิม
“นำโม กวนสี่อิม ผ่อสัก”
นำโม ไต่ชื้อ ไต่ปุย กิวโค่ว กิวหลั่ง กวงไต๋เหล่งก้ำ กวงสี่อิมผ่อสัก ( กราบ )
นำโม ไต่ชื้อ ไต่ปุย กิวโค่ว กิวหลั่ง กวงไต๋เหล่งก้ำ กวงสี่อิมผ่อสัก ( กราบ )
นำโม ไต่ชื้อ ไต่ปุย กิวโค่ว กิวหลั่ง กวงไต๋เหล่งก้ำ กวงสี่อิมผ่อสัก ( กราบ )
นำโมฮุก นำโมหวบ นำโมเจ็ง นำโมกิ้วโค่ว กิวหลั่งกวงสี่อิมผ่อสัก
ถั่งจี้ตอ โอม เกียล้อฮวดตอ เกียล้อฮวดตอ เกียคอฮวดตอ หล่อเกียฮวดตอ
หล่อเกียฮวดตอ ซาผ่อออ เทียงหล่อซิ้ง ตี่หล่อซิ้ง นั้งลี่หลั่ง หลั่งหลี่ซิง
เจ็กเฉียก ใจเอียง ห่วยอุ่ยติ๊ง นำมอ หม่อ ออ ปวกเยี้ย ปอหล่อบิ๊ก ( กราบ )
พระคาถาจีนแปลเป็นไทยโดยใจความ
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมกราบนมัสการแทบเบื้องพระยุคลบาทแห่งองค์พระพุทธบิดรอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งพระธรรมและพระอริยสงฆ์สาวก
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการ ต่อเจ้าแม่กวนอิมบรมโพธิสัตว์พุทธเจ้า พระผู้ทรงมีน้ำพระทัยเมตตากรุณาต่อผู้ทุกข์ยากลำบากอย่างไม่มีขอบเขตจำกัด ไม่มีการถือชั้นวรรณะ น้ำพระทัยของพระองค์บริสุทธิ์ และศักดิ์สิทธิ์ประดุจดังกระแสแห่งทิพย์
ข้าพเจ้าขอถวายอภิวาทต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และพระอรหันต์ สาวกสาวิกาทั้งหลาย เทพเจ้าบนสวรรค์ เทพเจ้าผู้รักษาแผ่นดิน ขอให้ข้าพเจ้า พ้นจากเคราะห์กรรมทั้งปวง ขอให้ข้าพเจ้าได้ปัญญา ให้ข้าพเจ้าได้โลกกุตตระ ได้เข้าถึงฝั่งแดนพระอริยะด้วยเทอญ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)